ทุกคนคงเคยชินกับคำว่า “แบคทีเรีย” ว่าเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เพราะ แบคทีเรีย มักเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อาหารเน่าเสีย และทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งมักเกิดกับมนุษย์อย่างเราๆ และเรายังพบว่าเชื้อแบคทีเรียมักอาศัยอยู่ในธรรมชาติตามดิน น้ำ และในอากาศ แต่ก็ใช่ว่าแบคทีเรียจะไม่มีประโยชน์หรือบทบาทสำคัญหรอกนะ เพราะเชื้อแบคทีเรียยังมีส่วนช่วยในการผลิตอาหารและทำลายอาหารได้เป็นอย่างดี
โดยความเป็นจริงทุกอย่างที่เกิดมาในโลกนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เชื้อแบคทีเรียก็เช่นกัน ซึ่งในครั้งนี้เราจะพูดถึงข้อดีของเชื้อแบคทีเรียเป็นหลัก เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ทั้งดีและไม่ดี มนุษย์จึงเลือกสายพันธุ์ที่ดีมาใช้ประโยชน์ในการรับประทาน เพื่อชดเชยสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ แต่สามารถหาได้ในแบคทีเรียนั้นเอง
สำหรับแบคทีเรียที่เราจะพูดถึงนั้น ถือเป็นแบคทีเรียที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแบคทีเรียที่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ โปรไบโอติกส์ และด้วยคำว่า โปรไบโอติกส์ หรือ Probiotics ที่มีความหมายแฝงไว้ว่า ‘ส่งเสริมสิ่งมีชีวิต’ จึงถูกนำมาใช้ส่งเสริมให้กับมนุษย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นหลัก โดยโปรไบโอติกส์นั้นสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย และระบบการย่อยบางอย่างที่อาจทำให้คุณประหลาดใจได้ เรียกได้ว่ามีความสำคัญกับสุขภาพตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสูงอายุเลยทีเดียว
โปรไบโอติกส์ ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร?
ด้วยความที่โปรไบโอติกส์ สามารถผลิตสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายออกมาได้ ทางการแพทย์จึงนำมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นยาและอาหารเสริมซะส่วนใหญ่ ซึ่งหนึ่งในสารที่สามารถหาได้จากโปรไบโอติกส์คือ กรดแลคติก เป็นสารชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นและทำให้เกิดโรค หรือส่งผลต่อสภาวะการเจ็บป่วยของร่างกาย ซึ่งได้รับการรุกรานด้วยการติดเชื้อต่างๆ รวมทั้งโรคไวรัสบางชนิด ที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้ อีกทั้งยังช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอล ลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลผ่านผนังลำไส้ ลดการทำงานของลำไส้ ลดอาการท้องผูกได้ เนื่องจากโปรไบโอติกส์จะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และช่วยเพิ่มความชื้นของอุจจาระ ทำให้สามารถขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มวิตามินบีทำให้เซลล์ในระบบภูมิต้านทานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังทำให้มีการผลิตเม็ดเลือดแดงดีขึ้น ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งรวมทั้งกำจัดสารก่อมะเร็งบางชนิด และยังผลิตแลคติกแอซิดแบคทีเรีย ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย นอกจากนี้ยังผลิตเอนไซม์แลคเตส ที่ช่วยย่อยน้ำตาลในนม ทำให้เราไม่มีอาการท้องอืดจากการดื่มนม และช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมดีขึ้นด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างอาหารที่มีโปรไบโอติกส์
- โยเกิร์ต เป็นหนึ่งในอาหารหลักที่มีโปรไบโอติกส์อยู่มากพอสมควร ซึ่งเกิดจากกระบวนการนำนมไปผ่านกรรมวิธีในการหมักโดยใช้แบคทีเรียที่ดี ช่วยรักษาและปรับสมดุลของแบคทีเรีย
- ชีส ไม่ใช่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียม แต่ในชีสยังมีโปรไบโอติกส์ที่ช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดฟันผุ บำรุงกระดูกและลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน
- นมเปรี้ยว ด้วยความที่นมเปรี้ยวเกิดจากการนำนมไปหมักกับจุลินทรีย์ จึงทำให้เกิดโปรไบโอติกส์คล้าย ๆ กับการทำโยเกิร์ต ดังนั้นการดื่มนมเปรี้ยวเป็นประจำทุกวันจึงมีประโยชน์ที่คล้ายกับการรับประทานโยเกิร์ตนั่นเอง
- เทมเป้ ก็เหมือนอาหารไทยที่มีการหมักดอง แต่กลับเป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการนำถั่วเหลืองมาหมักและทำเป็นแท่ง จนทำให้เกิดแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายออกมาได้เช่นกัน
- ข้าวหมาก คืออาหารที่เกิดจากการนำหัวเชื้อยีสต์กับเชื้อรามาหมัก เพื่อช่วยในการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล จึงทำให้เกิดอาหารชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวานกลิ่นหอมจากการหมักข้าว แถมยังมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายซ่อนอยู่อีกด้วย
- กิมจิ อาหารจากผักดองจากเกาหลีที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก ซึ่งเกิดจากการนำผักกาดมาหมักกับเครื่องเทศต่าง ๆ จนทำให้เกิดแบคทีเรียที่มีประโยชน์
- ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่มีสารโปรไบโอติกส์ ด้วยความที่สารโปรไบโอติกส์ดีต่อร่างกาย แต่บางคนอาจหารับประทานได้ยาก จึงทำให้วงการแพทย์เริ่มผลิตอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารโปรไบโอติกส์ เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน
โทษที่ได้จากโปรไบโอติกส์ที่ควรระวัง
จริงๆ แล้ว โปรไบโอติกส์ อาจไม่ใช่เชื้อแบคทีเรียที่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณเป็นบุคคลที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่รับประทานยาต้านภูมิคุ้มกัน ผู้ที่ผ่าตัดลำไส้ไม่เกินครึ่งปี หรือทารกที่คลอดก่อนกำหนด การหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเคยมีรายงานกล่าวถึงภาวะเลือดที่มีแบคทีเรียในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวว่า การเพิ่มอาหารที่มีโปรไบโอติกส์เข้าไปในร่างกาย อาจเพิ่มโอกาสเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ เนื่องจากในอาหารบางชนิด เช่น อาหารหมักดอง ซึ่งเป็นแหล่งที่เราไม่ทราบว่ามีความสะอาดมากน้อยเพียงใด มักมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้เช่นกัน
ที่มาจาก www.maeban.co.th